เพิ่มศักยภาพความเป็นไปได้ด้วย Google Cloud

Shape what’s next in research and education with the robust capabilities of Google’s Cloud technology.

Hero video. Girl, teen or higher education aged, is looking at something on a computer screen.

Chromebook Laptop showing Google dashboard.

ก้าวข้ามขอบเขตด้วยแพลตฟอร์มที่ไร้ขอบเขต

Google Cloud ลดความซับซ้อนและนำเสนอโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการด้านพื้นที่เก็บข้อมูล ข้อมูลวิเคราะห์ ข้อมูลขนาดใหญ่ แมชชีนเลิร์นนิง และการพัฒนาแอปพลิเคชัน คุณจะเริ่มต้นทำงานได้อย่างมั่นใจมากขึ้นด้วยการอบรมและทรัพยากรจาก Google

ความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ในระดับที่ต้องการ

โมเดลการรักษาความปลอดภัยแบบผสานรวมในแนวตั้ง โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เครือข่ายที่เป็นกรรมสิทธิ์ และความสามารถในการสร้างนวัตกรรมที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยรักษาความปลอดภัยให้องค์กรของคุณพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามข้อกำหนด

โอเพนซอร์สและการเปิดกว้าง

คุณสมบัติแบบโอเพนซอร์สช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมร่วม การทำงานร่วมกัน และความสามารถในการถ่ายโอนซึ่งสำคัญต่อสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต

ข้อมูลและข้อมูลวิเคราะห์ที่ทรงพลัง

ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพในข้อมูลขนาดใหญ่และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อค้นหาคำตอบได้เร็วขึ้น สร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และผลักดันการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สร้างแรงบันดาลใจ

นวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นเพื่อการทำงาน

เครือข่ายทั่วโลกของ Google ใช้ประโยชน์จากสายใยแก้วนำแสงความยาวหลายพันไมล์และเครือข่ายที่ซอฟต์แวร์กำหนดขั้นสูง เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว สม่ำเสมอ และรองรับการปรับขนาดได้

ทำงานแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Google Cloud

Google Cloud พร้อมพลิกโฉมแวดวงวิจัย การสอน การเรียนรู้ และอีกมากมาย ตั้งแต่การจำลองผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การฝึกฝนอัลกอริทึมเพื่อช่วยให้ตรวจจับเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น ไปจนถึงการสร้างแอปพลิเคชันได้รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย

ข้อมูลขนาดใหญ่และแมชชีนเลิร์นนิง

ขับเคลื่อนงานวิจัยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่และข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญล่าสุด

แปลงข้อมูลธรรมดาให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บริการแมชชีนเลิร์นนิง และ API ต่างๆ ขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความก้าวหน้าโดยใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสมือนที่ยอมให้มีการขัดจังหวะชั่วคราวซึ่งประมวลผลการคำนวณขนาดใหญ่ ไปจนถึง Cloud ML Engine ที่จดจำรูปแบบของชุดข้อมูลได้

"มุมมองที่มีต่อการวิจัยทั้งหมดจะเปลี่ยนไปเมื่อได้รับคำตอบหลังจากถามคำถามในเวลาไม่กี่ชั่วโมงแทนที่จะเป็นหลายเดือน"
Andrew V. Sutherland, นักทฤษฎีตัวเลขงานประมวลผลและหัวหน้านักวิจัย, MIT

BigQuery

ทำงานพัฒนาแบบไร้ขีดจำกัดในคลังข้อมูลระบบคลาวด์สำหรับข้อมูลวิเคราะห์ที่มาพร้อมแมชชีนเลิร์นนิงในตัว

Tensorflow

นำพลังและความยืดหยุ่นของ TensorFlow มาสู่ระบบคลาวด์ ใช้ Cloud ML Engine เพื่อฝึกฝนโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงและรับข้อมูลคาดการณ์

AutoML

ใช้ประโยชน์จากชุดผลิตภัณฑ์แมชชีนเลิร์นนิงที่ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในระดับที่จำกัดฝึกฝนโมเดลคุณภาพสูงให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้

พื้นที่เก็บข้อมูลและ Networking

สร้างบนโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย รองรับการปรับขนาด และมีความทันสมัย

พื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์และบริการเครือข่ายประสิทธิภาพสูงของ Google Cloud ช่วยเปิดโลกใหม่แห่งความเป็นไปได้ สอบถามข้อมูลได้มากขึ้น ได้รับคำตอบรวดเร็วขึ้น และทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ด้วย Cloud Storage ซึ่งมาพร้อมความสามารถในการแชร์ขั้นสูงและการจัดการคอนเทนเนอร์ด้วย Kubernetes

"นับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลกจะทำงานร่วมกันและวิเคราะห์ข้อมูลใน "ระบบคลาวด์ร่วม" ได้”
Dr. Stephen Scherer, Ph.D., D.Sc., ผู้อำนวยการโครงการ MSSNG, FRSC

Cloud Storage

ผสานรวมโซลูชันพื้นที่เก็บข้อมูลออบเจ็กต์ที่ปลอดภัยและคงทนในแอปของคุณด้วยการแคชไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลายทางทั่วเซิร์ฟเวอร์และ API ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

Stackdriver

เพิ่มการตรวจสอบและการจัดการบริการ คอนเทนเนอร์ แอปพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐาน

Kubernetes

สร้างในสภาพแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพ รองรับการปรับขนาด และรับประกันความพร้อมใช้งานเพื่อทำให้แอปพลิเคชันในคอนเทนเนอร์ใช้งานได้

การทำงานอัตโนมัติและการจัดการ API

ล้ำกว่าด้วยระบบอัตโนมัติที่เร็วและมีประสิทธิภาพ

กำหนด ดำเนินการ และปรับขนาดแอปพลิเคชันได้ด้วยความเร็วตามแบบฉบับของระบบคลาวด์ บริการเช่น App Engine มาพร้อมแบ็กเอนด์ที่รองรับการปรับขนาดและรองรับภาษาการเขียนโปรแกรมทุกภาษา การประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ที่ขับเคลื่อนโดยกิจกรรมของ Cloud Function และ Cloud API ที่ทรงพลังซึ่งจะช่วยให้คุณมีสมาธิอยู่กับการสร้างผลงานอันเหนือชั้น

"Google Cloud ช่วยให้การวิจัยปัญญาประดิษฐ์ในเชิงวิชาการรุดหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว"
Yoichi Matsuyama, นักวิจัยหลังปริญญาเอกของสถาบันเทคโนโลยีด้านภาษา